
ปัญหาสุขภาพของเด็ก มักสร้างความกังวลใจให้กับคุณพ่อคุณแม่มากเลยทีเดียว โดยเฉพาะหากเกิดกับลูกน้อยวัยเตาะแตะด้วยแล้ว ยิ่งสร้างความกังวลใจ โดยเฉพาะเสียงร้องโยเยของเขายิ่งเพิ่มความวิตกให้กับคุณพ่อคุณแม่ได้มากเลยเชียว ร่างกายของลูกน้อยวัยเตาะแตะ บอบบางและพร้อมที่จะรับเชื้อโรคได้ง่ายๆ ควรดูแลลูกน้อยอย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะการดูแลรักษาความสะอาดไม่ว่าจะเป็นสิ่งของเครื่องใช้ ของเล่น ให้ถูกสุขลักษณะเสมอ แต่แม้กระนั้นในบางช่วงเวลาลูกน้อยก็ยังได้รับเชื้อโรคทำให้เกิดอาการป่วยไข้ได้เช่นกัน ต้องทำความเข้าใจเบื้องต้นกันก่อนว่าการรับเชื้อโรคบางอย่างของร่างกายลูกน้อย ไม่ว่าจะอยู่ในวัยไหน เป็นการพัฒนาด้านหนึ่งของร่างกายเพื่อสร้างภูมิต้านทานให้เกิดขึ้น สังเกตง่ายๆ จากการที่ลูกน้อยได้รับวัคซีนป้อนกันโรค ซึ่งอาจมีผลให้ลูกน้อยไม่สบายสักระยะ 1-2 วัน แล้วอาการก็ดีขึ้นพร้อมกับการที่ร่างกายได้สร้างภูมิต้านทานไวรัสตัวนั้นขึ้นมาด้วยแล้ว
ปัญหาสุขภาพของเด็กในแต่ละช่วงวัย โดยปกติจะขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นอากาศหรืออาหารบ้างชนิด ที่อาจทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ขึ้นได้ง่าย ปัญหาจากการรับประทานอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ จนทำให้เกิดท้องเสีย การโภชนาการที่ไม่ครบหมวดหมู่ ส่งผลให้ร่างกายขาดวิตามินบางชนิด หรืออื่นๆ ซึ่งเราไม่อาจคาดเดาได้ แม้จะป้องกันอย่างดีแล้วก็ตาม
สำหรับอาการป่วยของลูกน้อยที่เกิดขึ้น คุณพ่อคุณแม่จำเป็นที่จะต้องคอยสังเกตอาการของลูกน้อยอยู่ใกล้ๆ เพราะร่างกายของลูกน้อยยังบอบบางและอ่อนแออยู่มาก การเฝ้าสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดจะทำให้คุณพ่อคุณแม่ดูแลน้องได้ทันท่วงที นอกจากนั้นการปรับสภาพแวดล้อมให้โปร่งโล่งขึ้น เพื่อให้เขาได้รับอากาศที่บริสุทธิ์ ดูแลให้ลูกน้อยได้นอนพักผ่อนอย่างเพียงพอ รับประทานผักผลไม้สดเป็นประจำเพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามินที่ดีมีประโยชน์ จะช่วยฟื้นฟูร่างกายของลูกน้อยได้เร็วขึ้น และที่ขาดไม่ได้ในขวบปีแรก พยายามให้ลูกน้อยทานนมแม่ให้ได้ยาวนานที่สุด เพราะนมแม่คืออาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารกน้อย ทั้งสารอาหาร ภูมิคุ้มกัน และสายใจแห่งรักจากแม่สู่ลูกที่จะส่งผลให้ลูกน้อยผ่านอาการป่วยไข้ไปได้ด้วยดี
ปัญหาสุขภาพของเด็กอีกอย่างหนึ่งที่เรามักพบกันอยู่มากในประเทศไทย คือ ปัญหาสุขภาพด้านการโภชนาการ หรืออาการป่วยที่เกิดจากการขาดสารอาหาร ส่งผลให้ร่างกายอ่อนแอ โตช้า ภูมิต้านทานโรคต่ำ โอกาสได้รับเชื้อโรคและทำให้ป่วยได้ง่ายๆ มีสูงมาก เพราะฉะนั้นคุณพ่อและคุณแม่จำเป็นต้องคอยดูแล ฝึกวินัยในการกินให้กับลูก ให้ลูกได้ลองกินอาหารที่หลากหลายขึ้น ยกเว้นอาหารจุบจิบ ที่อาจส่งผลต่อสุขภาพของลูกน้อยได้ และควรฝึกให้ลูกน้อยดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพื่อช่วยในเรื่องของระบบขับถ่ายพร้อมทั้งให้ดื่มนมวันละ 1-2 แก้ว เพื่อช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย ดังนั้น งานด้านโภชนาการสำหรับลูกแล้วนับว่าเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ ที่จะเสริมสร้างเกราะป้องกันสุขภาพของลูกน้อยได้ดี
ปัญหาสุขภาพของเด็กส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย และพัฒนาการด้านต่างๆ ตลอดจนอารมณ์ ความรู้สึกของลูกน้อยด้วย คุณพ่อคุณแม่จึงควรดูแลอย่างใกล้ชิดและเอาใจใส่อยู่เสมอ ข้อสำคัญคือควรใจเย็นให้มากๆ เมื่อรู้ว่าลูกมีอาการไม่สบายเกิดขึ้น เพราะความโยเยด้วยความไม่รู้ของลูกน้อยกับอาการที่เกิดขึ้น อาจทำให้คุณพ่อคุณแม่มีอารมณ์จนพาลส่งผลเสียต่อลูกน้อยได้ การดูแลเอาใจใส่ลูกด้วยความรักและความอบอุ่นจึงเป็นส่วนเสริมที่จะช่วยทำให้ลูกก้าวผ่านอาการเหล่านั้นได้อย่างรวดเร็ว แต่หากคุณพ่อคุณแม่มีความกังวลใจมากการพาลูกพบคุณหมอเพื่อตรวจดูอาการก็เป็นทางออกที่ดีทางหนึ่งเช่นกัน