
อุบัติเหตุจมน้ำ เกิดขึ้นได้ไม่เว้นแม้แต่น้ำตื้นๆ แค่เพียงครึ่งลำแข้ง สถิติที่พบเด็กจมน้ำเป็นปัจจัยลำดับต้นๆของการเสียชีวิตวัยเด็ก พ่อแม่นั้นอาจไม่รู้เลยว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดนี้เมื่อไหร่ แต่สิ่งที่พ่อแม่จะทำได้คือการป้องกัน และไม่ประมาทปล่อยเด็กไว้ลำพัง คนเลี้ยงดูทุกคนในบ้านต้องช่วยกันสอดส่องดูแลเสมอ ปิดภาชนะที่ใส่น้ำ เช่น โอ่ง ตุ่มน้ำต่างๆ เป็นต้น และอย่าปล่อยเด็กไว้ลำพังเวลาอาบน้ำ หรือแม้แต่กะละมังเล็กๆ ก็ตาม
อุบัติเหตุทางท้องถนน ปัจจุบันข่าวนี้พบได้บ่อยทั้งพบคนขับรถตามท้องถนนมองไม่เห็นเด็กแล้วชน อีกกรณีคือพ่อแม่เองที่อุ้มเด็กขึ้นรถมอเตอร์ไซค์แล้วไม่ทันระวัง ผ้าที่พันตัวเด็กได้ติดเข้าไปในเครื่องแล้วทำให้รถเสียหลัก สองตัวอย่างนี้เป็นปัญหาที่ไม่ควรละเลย พ่อแม่ต้องป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้นทุกคนควรมีสติตลอดเวลาว่าการเดินทางทุกครั้งจะไม่ประมาททำอะไรง่ายๆ เมื่อขึ้นรถต้องใช้กระเป๋าเป้ที่ใช้สำหรับอุ้มเด็กที่ไม่มีสายระโยงระยาง ซึ่งทำให้ปลอดภัยกว่า ในเด็กเริ่มคลานหรือใช้รถหัดเดินที่มีล้อต้องมีการจำกัดพื้นที่ และมีผู้เลี้ยงดูสังเกตเสมอเพื่อไม่ให้ออกนอกพื้นไปเสี่ยงบนท้องถนน พอถึงวัยที่โตขึ้นต้องใส่หมวกกันนิรภัยที่พอดีศีรษะและใส่ทุกครั้งที่นั่งรถมอเตอร์ไซค์
อุบัติเหตุจากการนอนทับลูก การที่พ่อแม่ และเด็กนอนเตียงเดียวกัน อาจดูเป็นเรื่องธรรมดาปกติ แต่เกิดสิ่งไม่คาดคิดมาแล้ว ดังเหตุการณ์นี้ที่พ่อแม่นอนทับลูกในระหว่างการหลับไม่รู้ตัว จนเด็กขาดอากาศหายใจเสียชีวิตเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น ข้อแนะนำสำหรับพ่อแม่ที่มีโรคประจำตัวการรับประทานยาที่ทำให้หลับลึก หรือเป็นคนที่หลับสนิทมาก นั่นยิ่งถือว่าเป็นความเสี่ยงมากต้องมีการป้องกันตัวเอง และลูก ด้วยการนอนแยกจากพ่อแม่ จัดพื้นที่กว้างให้เด็กนอนในที่นอนของเด็กเอง หาผ้าห่มที่ไม่หนามาก หมอนที่ไม่สูงบางเล็ก ไม่ให้มีตุ๊กตา และวัสดุนุ่มนิ่มในที่นอน เพราะในสิ่งเหล่านั้นอาจทำให้มีการกดทับปิดการหายใจได้เช่นกัน
อุบัติเหตุจากสิ่งของอุดปาก อุดจมูก หรือรูหู สิ่งของเล็กๆ ไม่ว่าจะเป็นเมล็ดของผลไม้ เศษขนม เศษของเล่นต่างๆ เด็กที่ยังไม่รู้ว่าไม่ควรที่จะเอาเข้าปาก ยัดจมูก หรือแม้กระทั่งแหย่เข้าไปในรูหู มันก็เกิดเป็นอุบัติที่ไม่ทันมาแล้ว ในกรณียกตัวอย่างเช่น แม่จะเอาผลไม้ให้ลูกกินแต่พอแม่เผลอ ลูกจับยัดเมล็ดของผลไม้เข้าไปในจมูกพอแม่มาเจอลูกอีกทีก็เห็นนอนแน่นิ่งไป ซึ่งเมล็ดนั้นก็ได้เข้าไปอุดในรูจมูกของเด็ก จนทำให้เด็กหายใจไม่ออกกระทั่งหมดลมหายใจไปเลย เหตุการณ์ดังกล่าวก็มีให้เห็น หรือเด็กบางคนเอาของไปแหย่หูตัวเอง กว่าจะรู้ตัวก็มีอาการปวดบวม อักเสบก็มี สิ่งที่เป็นแนวทางการป้องกันคือแม่ต้องสังเกตพฤติกรรมเด็กอยู่เสมอ และเก็บของใช้ที่คิดว่าอาจะเกิดอันตรายกับเด็กได้ให้มิดชิด ไม่ควรที่จะละเลยให้เด็กอยู่ลำพัง และควรมีผู้เฝ้าดูแลระวังเหตุกาณ์ดังกล่าวนี้ด้วย
อุบัติเหตุจากประตู หรือหน้าต่างหนีบ ในเด็กเล็กที่เริ่มคลาน หรือเริ่มเดินมักจะชอบหาสิ่งแปลกใหม่อยู่เสมอ บางครั้งก็เดินตามพ่อแม่ บางครั้งเมื่อเจอซอกหลืบมักจะแย่มือไปจับ หรือแม้กระทั้งช่องหนีบประตู แต่อุบัติที่ไม่คาดคิดคือ ประตูอาจจะโดนลมพัดมาหนีบที่มือ หรือที่ตัวของเด็กได้ ซึ่งอาจได้รับการบาดเจ็บตั้งแต่เขียวช้ำธรรมดาไปจนถึงกระดูกหักเลยก็ได้ สิ่งที่พ่อแม่ควรป้องกันคือเฝ้าระวังว่ามีเด็กเดินตาม เด็กไปในที่ที่ละสายตาพ่อแม่หรือไม่ และควรที่จะล็อคประตูไว้ทุกครั้งอีกด้วย